THAI FOREST ECOLOGICAL RESEARCH JOURNAL

ISSN 2586-9566 (Print) ISSN 2985-0789 (Online)

โครงสร้างสังคมพืชและกักเก็บคาร์บอนของพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าเศรษฐกิจ ณ สถานีวิจัยและฝึกนิสิตวนศาสตร์วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

วสันต์ จันทร์แดง ลดาวัลย์ พวงจิตร และ นรินธร จำวงษ์
1
*ผู้รับผิดชอบบทความ: อีเมล: fforwsj@ku.ac.th
บทคัดย่อ

การศึกษาโครงสร้างสังคมพืชและการกักเก็บคาร์บอนของพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าเศรษฐกิจ ณ สถานีวิจัยและฝึกนิสิตวนศาสตร์วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาโครงสร้างสังคมพืชและประเมินการกักเก็บคาร์บอนของระบบนิเวศป่าไม้ในแต่ละแหล่งสะสม โดยทำการวางแปลงศึกษาในพื้นที่ป่าดิบแล้งและสวนป่า ยูคาลิปตัส ขนาด 1 ไร่ (40 เมตร ? 40 เมตร) จำนวน 8 แปลง ผลการศึกษาพบว่าสังคมป่าดิบแล้ง มีจำนวนชนิดพรรณไม้ทั้งสิ้น 95 ชนิด 76 สกุล 45 วงศ์ โดยไม้เด่นที่พบคือกะเบากลัก (Hydnocarpus ilicifolia King) โมกป่า (Wrightia arborea (Dennst.) Mabb.) และมะค่าโมง (Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib) ในขณะที่สวนป่ายูคาลิปตัส พบพรรณไม้ทั้งสิ้น 20 ชนิด 19 สกุล 13 วงศ์ โดยไม้เด่นที่พบคือ ยูคาลิปตัส คามาลดูเลนซิส (Eucalyptus camaldulensis Dehnh.) โมกป่า (Wrightia arborea (Dennst.) Mabb.) และปอแก่นเทา (Grewia eriocarpa Juss.) ในขณะที่ค่าดัชนีความหลากหลายเท่ากับ 3.726 และ 0.465 ตามลำดับ โดยสังคมพืชป่าดิบแล้งมีการกักเก็บคาร์บอนสะสมทั้งหมด 94.57 ตันคาร์บอน/เฮกแตร์ หรือคิดเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 347.07 ตัน CO2 เทียบเท่า/เฮกแตร์ ส่วนสวนป่ายูคาลิปตัส มีปริมาณคาร์บอนสะสมทั้งหมด 45.81 ตันคาร์บอน/เฮกแตร์ หรือคิดเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 168.11 ตัน CO2เทียบเท่า/เฮกแตร์

คำสำคัญ:


Download full text (Thai pdf): 9 clicks